คลิกรูปปกหนังสือ เพื่อดาวน์โหลดอีบุ๊ค แต่ถ้ามีจำนวนเล่มเยอะ ให้คลิก link เลขที่เล่มด้านล่าง แทนรูปหน้าปกนะคะ
เฉินหมิง ยิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อนึกถึงเรื่องราวคืนนั้น เขาชอบเสียงหวานๆ
ยามครวญครางของเจ้าหล่อน แต่ก็ชอบตอนที่เธอด่าไฟแลบเหมือนกัน มันเร้าใจดี
“ฉันว่านะ หล่อๆ แบบคุณไปหาเอาข้างหน้าดีกว่า หรือถ้าขี้เกียจหาก็ซื้อกินเลย คุณรวยไม่ใช่เหรอ”
เธอมองสบตาคนตรงหน้าก่อนจะพูดต่อ
“อย่ามายุ่งกับฉันเลยดีกว่า ตอนนี้ฉันพึ่งอกหัก ไม่มีอารมณ์จะจิ๊จ๊ะกับผู้ชายคนไหนทั้งนั้น”
คนฟังทำตาลุกวาว
“งั้นก็แสดงว่าตอนนี้หัวใจมะปรางว่างร้อยเปอร์เซ็นต์เลยอะดิ ยังไม่มีแฟน ไม่มีคนคุยใช่มั้ย”
หญิงสาวเหลือบตามองเจ้าของคำถาม
“อื้อ ก็ประมาณนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะเปิดรับคุณเข้ามาหรอกนะ เพราะฉันไม่เชื่อว่าคุณชอบฉันจริงๆ”
“ทำไมล่ะ ปรางไม่เคยได้ยินเหรอ รัก-แรก-พบ”
“แหวะ! ไม่ต้องมาทำเป็นบอกว่ารักแรกพบ ครั้งแรกที่เราพบกัน ฉันไม่รู้สึกสักนิดว่าคุณปิ๊งฉัน เดินเข้ามาก็มาหยอดคำหวานใส่ยัยกวางไม่ยั้ง แถมยังด่าฉันว่าแบนราบยังกับไม้กระดานโดนรถสิบล้อทับ”
“เราอาจจะเคยเจอกันก่อนหน้านั้นก็ได้”
เธอไม่เข้าใจที่เขาพูด
“หมายความว่ายังไงคุณ เราสองคนเคยเจอกันมาก่อนเหรอ”
คิ้วโก่งขมวดเข้าหากัน สมองทำงานอย่างหนักจนส่งผลทำให้เจ้าตัวเครียด
“ลองคิดดูดีๆ สิ”
“คุณ.. เฉินหมิง”
กว่าจะรวบรวมเรี่ยวแรงแล้วเปล่งเสียงออกมา มันช่างยากเย็นเหลือเกิน
คนตรงหน้าชื่อเหมือนผู้ชายคนนั้น แต่คงไม่..
“เราไม่เคยเจอกันมาก่อนใช่ไหมคะ ใช่ไหม”
ยามนี้หัวใจดวงน้อยเต้นตุบตับเพราะหวั่นกลัวว่าสิ่งที่ตัวเองคิดมันจะเป็นเรื่องจริง
เฉินหมิงใช้มือจับปลายคางเรียวมนอย่างถือวิสาสะ
เขาจ้องมองดวงตาคู่หวานตรงหน้าแล้วเผยอยิ้ม
“มะปราง.. จำเฮียไม่ได้จริงๆ เหรอ”