Home » รู้ว่าร้ายแต่ใจก็รัก – ไออุ่นในฤดูหนาว

รู้ว่าร้ายแต่ใจก็รัก – ไออุ่นในฤดูหนาว

คลิกรูปปกหนังสือ เพื่อดาวน์โหลดอีบุ๊ค แต่ถ้ามีจำนวนเล่มเยอะ ให้คลิก link เลขที่เล่มด้านล่าง แทนรูปหน้าปกนะคะ

ดาวน์โหลดนิยาย รู้ว่าร้ายแต่ใจก็รัก pdf epub ไออุ่นในฤดูหนาว

ถ้าถามว่าใครคือคนที่ ญานิศา เกลียดที่สุดในชีวิต คำตอบของเธอก็คงหนีไม่พ้นผู้ชายที่ชื่อ “เติมตระกูล ชัชวาลเดช

เติมตระกูลเดินขึ้นมาประจันหน้ากับญานิศาพลางกวาดสายตามองร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยเสียงราบเรียบ

 

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านอมรกุล”

“ฉันต้องกลับมาสิเพราะที่นี่มันบ้านฉัน!”

ญานิศาเองก็ตอบกลับอย่างไม่สะทกสะท้าน ราวกับจะประกาศศึกว่าเธอไม่ใช่เด็กสาวในวันวาน ที่จะยอมให้เขาบงการชีวิตได้อีกต่อไป

“จะกลับมาวันนี้ทำไมไม่บอกพี่ก่อนล่ะ พี่จะได้ให้คนไปรับที่สนามบิน”

เขาพูดเสียงอ่อนลง เมื่อเห็นสายตาแข็งกร้าวไม่เป็นมิตรจากอีกฝ่าย

 

“ไม่จำเป็น กาฝากติดเมียใหม่พ่อฉันอย่างนาย ไม่จำเป็นต้องมารู้ชีวิตฉันหรอก”

“ญานิศา!”

ร่างสูงที่ยืนใจเย็นก่อนหน้าเสียงเข้มขึ้นอย่างไม่พอใจ เมื่อโดนพูดจี้ปมเข้าให้

“ทำไมล่ะ ยอมรับความจริงไม่ได้เหรอ เถียงสิว่านายเติมตระกูล นักธุรกิจไฟแรงที่ใครๆต่างชื่นชมไม่ใช่กาฝากอย่างที่ฉันว่า”

 

“ก็ยังเป็นคุณหนูญานิศาคนเก่า ผู้ที่ไม่เคยมองเห็นหัวใครเลยนอกจากความต้องการของตัวเอง คิดว่าการที่ให้ไปเรียนต่อเมืองนอกเมืองนาจะช่วยเปิดโลกกว้างและขัดเกลาจิตใจให้เจริญเหมือนบ้านเมืองที่จบมา แสดงว่าไม่เลยสินะ เป็นคนดูถูกคนยังไงก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่วันยังค่ำ”

“อย่ายกเหตุผลที่ทำให้ตัวเองดูดีหน่อยเลย ฉันไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ว่านายส่งฉันไปเรียนต่อทำไม นายก็แค่จะส่งฉันไปให้พ้นหูพ้นตา และต้องการจะฮุบทุกอย่างของพ่อฉันต่างหาก”

“ก็คิดได้แค่นี้ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางตลอด ไม่เคยจะเปิดตาเปิดใจมองคนรอบข้างว่าเป็นยังไง”

 

“หยุดสั่งสอนฉันสักที คนอย่างนายมีสิทธิ์อะไรมาสอนฉัน”

“จะให้พูดไหมล่ะว่าพี่มีสิทธิ์อะไร!”

ร่างสูงพูดขึ้นอย่างเป็นต่อราวกับถือไพ่เหนือกว่า

เติมตระกูลมองหญิงสาวที่อายุห่างกัน 10 ปีตรงหน้าด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก

5 ปีที่ไม่ได้เจอกันนอกจากความสวยที่เพิ่มขึ้นแล้ว นอกนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย ฤทธิ์เดชของเธอยังคงเส้นคงวาอยู่เช่นเดิม

 

“เราลองมีเซ็กส์บนรถกันดูไหมว่ามันจะเร้าใจขนาดไหน พี่เองก็ยังไม่เคยลอง”

พูดพร้อมกับเคาะนิ้วลงบนพวงมาลัยรถอย่างอารมณ์ดี ญานิศาหันมามองคนเอ่ยชวนแทบจะทันที

“มองแบบนี้สนใจเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ว่าแต่ต้องหาข้างทางที่มันมืดๆหน่อยนะ แถวนี้มันสว่างไปเดี๋ยวคนข้างนอกได้เห็นกันหมด”

หญิงสาวมองชายหนุ่มหูอื้อตาลายกับสิ่งที่เขายังเอ่ยต่อ โกรธจนควันแทบออกหู

“ที่ผ่านมาเราเอากันบนเตียง ห้องทำงาน บนโซฟา แต่ยังไม่เคยลองบนรถเลย พี่ว่าลองบนรถดูบ้างก็น่าตื่นเต้นดีนะ”

 

“โรคจิต ใครสนใจอะไรพิเรนทร์ๆแบบนั้นไม่ทราบ”

“จะไปรู้เหรอก็ชวนคุยมาทั้งทางไม่ยอมคุย พอชวนมีเซ็กส์กลับหันมามองตาวาว ไอ้เราก็เลยคิดว่าชอบ”

“คนหื่น!ในหัวสมองคงมีแต่เรื่องเซ็กส์สินะ”

“คิดเรื่องเซ็กส์กับเมียตัวเองมันผิดตรงไหน”

สวนทันควันพร้อมกับมองด้วยสายตาแพรวพราว

“นี่!”

“ทำไม? หรือจะเถียงอีกว่าไม่ใช่เมีย เอากันไปตั้งหลายยกหลายทีแบบนี้ น่าจะเป็นมากกว่าคู่ขาได้แล้วนะ”

“คนอย่างพี่ก็คิดเรื่องเซ็กส์กับผู้หญิงไปทั่วนั่นแหละ อย่ามาพูดให้ตัวเองดูดี”

“ไม่เคยครับ”

ตอบกลับแทบจะทันทีโดยไม่ต้องคิด สายตาคมที่มองถนนก่อนหน้าหันมาสบดวงตาหวานที่จ้องอยู่ก่อนแล้ว

ญานิศามองดวงตาคมดุนั้นราวกับจะหาบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ อยากเอ่ยถามออกไปแต่ก็ไม่กล้า เลยเลือกที่จะเงียบแทน

 

“นับตั้งแต่วันที่พี่จดทะเบียนสมรสกับมิ้งค์ พี่ก็ไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย ถึงแม้จะเป็นการจดทะเบียนสมรสแค่ในนาม แต่พี่ก็ให้เกียรติคนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของพี่เสมอ มันคงไม่เหมาะที่คนที่มีภรรยาแล้วจะปล่อยตัวปล่อยใจกับผู้หญิงไปทั่ว ถึงแม้จะไม่มีใครรู้เรื่องทะเบียนสมรสของเราแต่พี่รู้มันดีแก่ใจ”

“………….”

“ขนาดเป็นแค่การจดทะเบียนสมรสแค่ในนามพี่ยังให้เกียรติมิ้งค์ และไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับใครเลย แล้วตอนนี้ที่เราเป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์แบบนี้ คิดว่าพี่ยังจะไปยุ่งกับใครได้”