คลิกรูปปกหนังสือ เพื่อดาวน์โหลดอีบุ๊ค แต่ถ้ามีจำนวนเล่มเยอะ ให้คลิก link เลขที่เล่มด้านล่าง แทนรูปหน้าปกนะคะ
เรื่องราววุ่นวายของท่านอ๋องเก้ากับพระชายาตัวน้อย ที่นางยังไร้เดียงสาเกินไป
ต่อการร่วมหอระหว่างสามีภรรยา กรรมหนักจึงตกใส่ศีรษะของท่านอ๋อง
ผู้ถูกขนานนามว่าเป็น ‘บรรพตน้ำแข็ง‘ ที่อยากเข้าหอแทบตาย
แต่…จำต้องอดขื่นรอไว้กินหวานจนน้ำแข็งแทบเดือด!
เมียเด็กก็ต้องเลี้ยงแมวของเมียเด็กยอดยาใจก็ต้องดูแล
บัลลังก์ก็ต้องกอบกู้เกิดเป็น หานหย่งไท่ ไยจึงยากยิ่งนัก!
ทางฝ่าย หานหย่งไท่ ตกใจที่นางจริงจังต่อหน้าที่ภรรยาที่ดีมากมายเช่นนี้
แล้วไอ้สิ่งที่นางจริงจังมันก็ไม่ได้สมควรเลยสักนิด ส่วนเหล่าองครักษ์ทั้งสอง
ต่างก็ล้วนคิดตกตะลึงไปไกลจนถึงสวรรค์ชั้นฟ้าแล้ว ต่างหันมามองตากัน
จากนั้นก็เร่งเมินหลบ แต่ใบหูถึงอยู่ใต้แสงจันทรา กลับยังเห็นชัดเจนว่าแดงดังผลอิงเถาสุกมากเพียงใด
…ท่านอ๋องเก้าช่างน่าอิจฉาอย่างยิ่ง…
สายตาพวกเขาสื่อถึงกันได้ราวนั้นโดยมิอาจทราบได้ว่า ผู้ถูกอิจฉาแสนจะตรอมตรมอย่างยิ่งแล้วในยามนี้
“ทำอันใดของเจ้ากันเสี่ยวเหยา!”
ถึงไม่อยากจะดุว่าเด็กน้อยแต่เขาไม่สนุกเช่นไร เขาก็ยังเป็นบุรุษโตเต็มวัย
ส่วนสตรีตรงหน้านางก็งดงามมาก เขายังมีความรู้สึกของบุรุษเพศอัดแน่นมาถูกลูบคลำกันแบบนี้
เขาย่อมทุกทรมานเป็นธรรมดา ส่วนสำคัญของร่างกายครัดเคร่ง
จนแทบอยากเอาศีรษะโขกเสาเตียงให้สลบ จบค่ำคืนเข้าหออันแสนอัปยศลงเสียเดี๋ยวนี้
“ใจเย็นเพคะท่านอ๋อง…อีกนิดเดียวเพคะ…เหยาเอ๋อร์ใกล้ทำเสร็จแล้วเพคะ”
…เคร้ง! …
องครักษ์ผู้หนึ่งถึงกับเสียกิริยามือไม้อ่อน ยามได้ฟังถ้อยคำคู่บ่าวสาว
แต่ก็ยังอุตส่าห์มากมารยาท เร่งตะแคงหูฟังให้ชัดเจนอีกหน่อย
“พอแล้วเสี่ยวเหยาเจ้าอย่าซุกซนข้าง่วงมากแล้วนอนเถอะ”
มือเล็กนุ่มนิ่มที่ลูบไปตามฝ่าเท้าทำเอาคนไม่เคยถูกสตรีใดดูแลกันใกล้ชิดเพียงนี้
คำรามเสียงแหบแห้งเสียกิริยาของท่าน ‘บรรพตน้ำแข็งแห่งตง‘ ไปจนสิ้นอย่างน่าสงสาร
“ใกล้แล้วเพคะท่านอ๋องทรงอดทนอีกนิดเดียว…จะเสร็จแล้วเพคะ”
ปากเล็กเอ่ยไปมือเล็กก็เร่งหยิบผ้าสะอาดมาซับไปตามเท้าขาวผ่องทั้งสองข้าง
จากนั้นนางก็นำอ่างน้ำไปวางไว้ด้านข้างประตู ก่อนจะหวนกลับคืนมาปีนขึ้นไปบนเตียง
แล้วตรงเข้าช่วยท่านอ๋องเก้าปลดสายคาดเอว เช่นที่เห็นท่านป้าสะใภ้กระทำต่อท่านลุงเป็นลำดับถัดไป
“เดี๋ยว! …เจ้าทำอันใดอีกเสี่ยวเหยา?”
นับแต่จำความได้หานหย่งไท่ไม่เคยอุทานเสียงดังอย่างเสียกิริยาสุขุมเช่นนี้มาก่อนเลยสักคราว
แต่เพียงมิกี่ชั่วยามรับฉีหวางเฟยวัยเยาว์ บรรพตน้ำแข็งแห่งตงซาน
ก็ละลายแล้งละลายอีกจนน่าสงสารอย่างยิ่ง