ยังคงเสน่หา – ปริยากร
มีใหม่ไปแล้วหรือไง ถึงได้ลืมคนเก่า…
มีใหม่ไปแล้วหรือไง ถึงได้ลืมคนเก่า…
เธอให้หัวใจ… เขาให้เงิน “ฉันควรหักเงินเดือนเธอ” แพขนตาดำขลับกะพริบพรึบทีหนึ่ง “ไม่ก็… ให้จูบ แล้วฉันจะทำลืมๆ เรื่องนี้” ใบหน้าเล็กเอนออกเมื่อคนตัวสูงพูดแล้วโน้มตัวลงมาหา ก่อนจะทำให้หัวใจที่เต้นระทึกตึกตักอยู่แล้วกระหน่ำรัวยิ่งกว่าเดิม “คุณวัช…” “ฮื่ออ…” “หะ หักเงินของเดือนก็ได้ค่ะ!”
“รุจีเข้าใจดีแล้ว พอพ่อไม่อยู่ พี่อรรถก็เปลี่ยนเป็นคนละคน จอมปลอม! หลอกลวง” “พี่ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง” “เหรอคะ!?” เธอจ้องหน้าเขาตาวาว “งั้นทำไมพี่อรรถไม่สนใจรุจี…” หยดน้ำตาที่ไหลผ่านแก้ม และคำถามนั้น ทำให้คนมองนิ่งไป
เวลาหนึ่งเคยรักสุดดวงใจ อีกห้วงเจ็บปวดอย่างสุดแสน เสน่หาที่หวนคืน จึงไม่หวานชื่นอย่างที่รอ…
เขาเปรียบดังดวงดาวบนฟากฟ้า เธอเป็นดั่งหิ่งห้อยน้อยแสงเหนือพื้นดิน… “คุณเป็นอะไรคะ! ฉันต้องเรียกรถพยาบาลไหม?” “ถ้าไม่อยากเข้ามาก็ไปตามลุงจวบกับป้าชื่น” ต้องตายืนบุ้ยปากอยู่กลางห้อง เธอยืนหันรีหันขวางอย่างชั่งใจ แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจเปิดประตูห้องน้ำ เขาไม่ได้อยู่ด้านนอก เห็นเงารางๆ ผ่านกระจก
“นายไม่เคยทำอะไรด้วยหัวใจสักอย่างเลยใช่มั้ย!?” ปรมัตถ์สบตาเธอ ความเงียบเกิดขึ้นหลายอึดใจ “คุณต้องการอะไรจากผมครับ คุณแยม” “ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้เราเลิกกันหรือยัง!?” ญาสิณีโทษแอลกอฮอล์พวกนั้นที่ทำให้ขอบตาเธอร้อน มันทำให้เธออ่อนแอเกินไปด้วย “แล้วเราเคยคบกันตอนไหนล่ะครับ?”
“ที่ทำเป็นหวงเนื้อหวงตัว จะโก่งค่าแรงหรือไง รึว่าแค่จับมือมันน้อยไป!” เอวเล็กคอดถูกรวบเข้าไปหา คนที่มัวแต่นั่งหันข้างให้เขาอยู่อย่างไม่ทันระวังจึงถึงกับอุทานขึ้นเสียงหลง ข้อศอกเล็กๆ ถูกยกขึ้นมาดันอกกว้างไว้โดยอัตโนมัติ ดวงตากลมโตมองเขาอย่างนึกหวาดหวั่น ถ้าเขาคิดจะรังแกเธอล่ะก็ วันนี้จะสู้ให้ตายกันไปข้างเลย
เขามาเพื่อจัดการ! ใครบางคน โดยเฉพาะพวกที่ชอบใช้เต้าไต่ทำงาน แต่เธอ… กลับยืนหยัดเพื่อพิสูจน์ว่า ไม่เคยคิดใช้วิธีอย่างที่เขากล่าวหา บทพิสูจน์แห่งศักดิ์ศรีได้เริ่มขึ้น เเต่ในขณะที่ปากบอกไม่อยากแตะเธอ หากร่างกายกลับเพรียกหา ทำไปทำมาผู้บริหารหนุ่มจอมเคร่งขรึม กลับอยากเป็นคนไต่เต้าขึ้นมาเสียเองอย่างนั้น
“ก็เพราะฉันรู้ว่าเรื่องนี้มันสำคัญ ถึงอยากจะคิดก่อนค่อยให้พวกท่านรู้ เธอเข้าใจมั้ย!? เรื่องใหญ่มันจะได้กลายเป็นเล็ก ถึงรู้ว่าสมองของเธอมันจำอะไรไม่เคยได้ แต่ฉันก็ไม่นึกว่าเธอจะแว้งกัด เอาความไว้เนื้อเชื่อใจมาทำร้ายฉันอย่างนี้!!” “อีฟแค่เป็นห่วง…” “ใครบอกให้เธอมาห่วงฉัน ต่อให้จะเป็นจะตายยังไง ก็ไม่ต้องมาห่วงฉัน จำไว้!!”
เอะอะก็ร้องไห้ๆ น่ารำคาญชะมัด! เจ้าสาว… สำหรับหญิงสาวโดยทั่วไป ใครๆ ก็คงอยากเป็น เฝ้ารอวันได้เดินเคียงข้างชายคนรักเข้าสู่ประตูวิวาห์ แต่หากการแต่งงานที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากความรัก และชายผู้เป็นสามี ไม่เคยมองว่าเธอเป็นภรรยา มากไปกว่าเจ้าสาวที่แสนชัง หน้าที่เจ้าสาวอย่างเธอ จึงทำได้แค่ให้กายเขาเร่าร้อน
“ตกลงว่าเราเคลียร์กันเข้าใจแล้ว หรือว่ายัง!” “ฉันเข้าใจดีทุกอย่างค่ะ!” เธอเอียงหน้าออก ริมฝีปากเม้มอย่างเจ็บเคือง นั่นล่ะ เขาถึงได้ยอมปล่อย ค่อยๆ ขยับตัวออกจากเธอ จนิสาทั้งอายและโกรธ เธอลุกขึ้น ก้มเก็บผ้าขนหนู เดินเกือบเป็นวิ่งเข้าห้องน้ำ ขณะคนเห็นปลายจมูกเล็กมีสีชมพูเข้มจัดผุดขึ้น ก็ไม่อยากกักตัวไว้
“ถ้าจับได้ว่าหลีกเลี่ยงจะจ่ายดอกเบี้ยให้ผมอีก ผมจะเบิ้ลปรับ! เป็นสองเท่า สามเท่าเลยทีเดียว” เพราะความจำเป็นทำให้ลัลน์ลดาต้องตกอยู่ในมือเขา เจ้าหนี้เธอเรียกร้องทุกอย่างไม่เคยพอ และดอกเบี้ยเช่นเธอมีหน้าที่เดียวคือทำให้เขาไม่รู้สึกว่าขาดทุน ปราณคิดว่าเขาได้กำไรจากสิ่งที่เรียกร้อง
“อย่าพูดเหมือนเมื่อกี้ให้พี่ได้ยินอีก!” ร่างของปรีญาพัชน์ถูกปล่อยออกง่ายกว่าที่คิด แต่กระนั้นสายตาคาดโทษที่มองมาก็ยังทำให้เธอทั้งนึกโกรธและกลัวเขาขึ้นไปพร้อมๆ กัน “ปรางจะกลับบ้าน!” “ไม่ได้!! แล้วก็เลิกทำตัวงอแงเหมือนเด็กๆ เป็นผู้ใหญ่ให้จริงสักที พี่ไม่ได้ใจดีเหมือนไอ้ปราณมันหรอกนะ”
“จะเลือกผัวใหม่ ก็ดูที่มันเข้ากับลูกชายคุณได้หน่อยนะ!” กฤติมาคิดเสียว่าทำเพื่อลูก แม้ไม่อยากกลับมาเหยียบบ้านหลังนี้อีกแล้วก็ตาม ช่วงหนึ่งมันเคยเป็นความผิดพลาดที่แสนหวาน แต่อีกห้วงก็เปราะบางเกินประคอง ชีวิตคู่ที่ไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่ร่วมกันตั้งแต่ต้นจึงพังครืน