คลิกรูปปกหนังสือ เพื่อดาวน์โหลดอีบุ๊ค แต่ถ้ามีจำนวนเล่มเยอะ ให้คลิก link เลขที่เล่มด้านล่าง แทนรูปหน้าปกนะคะ
มือเล็กๆ ดันไหล่ชื้นเหงื่อของคนที่ทั้งซบและทิ้งน้ำหนักลงบนตัวเธอ จนเธอแทบจมไปกับโซฟา หลังจากทุกอย่างสงบลง
เธอสาบานได้ว่าต้องการแค่มาคุยกับเขา ไม่ได้ต้องการให้ความใกล้ชิดถึงขั้นนี้เกิดขึ้นแม้แต่สักนิดเดียว แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว…
“หายใจไม่ออก”
เธอพึมพำด้วยเสียงแหบพร่า จนไม่อยากเชื่อว่าเป็นเสียงตัวเอง ใบหน้าที่ซุกอยู่แถวแอ่งชีพจรและริมฝีปากที่แตะอยู่แถวนั้นค่อยๆ ถอยห่างไปจากเธอพร้อมการขยับเขยื้อนของคนตัวโตกว่า
แต่ทว่าเขาไม่ได้ถอยไปจากเธออย่างที่คิด แต่การขยับของเขา ทำให้ตัวเธอหมุนเหวี่ยงตามแรงดึงไปนอนทาบทับโดยมีเขาอยู่ใต้ร่างแทน อย่างนี้ก็ไม่ได้ดีไปกว่าเก่า แย่กว่าเดิมเสียอีก
“ปล่อยก่อนค่ะ”
แขนที่ล็อกตัวเธอคลายออก หญิงสาวรีบลุกถอยออกมาลนลานคว้าเสื้อผ้ามาสวม ไม่ตวัดสายตาไปมองคนที่ขยับลุกขึ้นนั่ง เนื้อตัวเธอร้อนผ่าวไปหมด ใส่เสื้อผ้าไม่สะดวกเท่าปรกติแต่กระนั้นก็รีบสวมเนื้อตัวสั่นไปหมด
เธอหันกลับไปมองคนที่นั่งมองเธออยู่ ตวัดสายตาไม่พอใจมองไป ก่อนจะคว้าเสื้อผ้าเขาโยนไปบนโซฟาข้างตัวเขา
“เหมือนคราวที่แล้วไม่มีผิด ได้ผมแล้วก็หน้าเชิดใส่ เป็นใบโพล่าร์รึไงคุณ ตอนอยากได้ก็จะเอา พอได้แล้วก็ทำเหมือนผมไปข่มขืน”
คำพูดของชายหนุ่มทำให้เธอโกรธจนปากสั่น ที่ไม่ยอมสวมเสื้อผ้านั่นอีก หลายอย่างที่เป็นเขาตอนนี้กวนโมโหจนเธอพูดไม่ออก
“ฉันไม่เคยอยากได้คุณ”
เธอแหวลั่น
“ฉันมาเพราะว่ามีเรื่องจะคุย แต่คุณไม่ฟังฉันเลย ไม่ให้โอกาสได้พูด”
“ก็นี่ไง ให้พูดแล้ว พูดสิ”
“หึ”
เธอมองค้อนคนฉวยโอกาส กับคนอื่นที่คบค้ากับเขาคงกินกันไม่ต้องพูดต้องจาแบบนี้ เพราะเขาคิวงานเยอะมีเวลาไม่มาก พอเธอมาหาก็ถูกเหมารวมทั้งที่บอกปาวๆ ว่าไม่ได้ต้องการเขาเลย ต่อให้เขาจะติดโผหนุ่มหน้าหล่อชวนฝันแห่งปีมาหลายปีติดก็ตามทีเถอะ
“หัดเข้าใจความต้องการของตัวเองบ้าง คุณอยากเข้าหาผม แต่ไม่ต้องทำมาเป็นเหมือนไม่อยากได้ ไม่เต็มใจ ผมไม่ชอบ ถ้าอยากก็แค่บอก ผมไม่ได้หวงตัวคุณก็เห็น”
“คนบ้า”
หญิงสาวยังไม่มีโอกาสพูดเขาก็พูดเข้าข้างตัวเองรัวๆ จนหาช่องไฟแทรกไม่ทัน เธอโกรธจนหาคำพูดมาเถียงเขาไม่ทันแล้ว
เธอทำท่าเหมือนไม่อยากมองเขาเลย และเชิดหน้าจนกลัวคอจะเคล็ด เลยหยิบบ็อกเซอร์ที่เธอโยนมาสวมเข้าอย่างเชื่องช้า แตกต่างจากเวลาถอดผ้าเธอยิ่งนัก
“สวมเสื้อด้วย ฉันจะรีบคุยธุระ จะได้ไม่เสียเวลา”
“ไม่สวมคุยไม่ได้รึไง”
“ไม่ได้!”
หญิงสาวหันหน้าหนี ก็ไม่อยากมองซิกแพกซ์ ไม่อยากมองแขนล่ำๆ ไม่อยากมอง!
# # # # # # # # # #
ห้องรับรองเงียบๆ ที่เต็มไปด้วยความอึดอัด ปทิตานั่งหน้าซีดเผือด จับมือตัวเองแน่น
เธอไม่คาดคิดว่าจะเจอเขา เธอแค่พาลูกกลับไทยมาเยี่ยมพ่อที่ป่วยเข้าโรงพยาบาล แต่การรักษาเหมือนจะยาวและมีเรื่องวุ่นหลายอย่างที่เธอต้องจัดการเธอกลัวไม่มีเวลาดูแลลูกเลยพาลูกมาเรียนเพื่อให้แกได้ฝึกภาษา และช่วงที่ลูกเรียนเธอจะได้ไปจัดการธุระได้โดยไม่ต้องพะวักพะวน
แต่เธอไม่นึกเลยว่าแค่มาเรียนวันแรกวิกกี้จะถูกเพื่อนแกล้งจนเจ็บตัว ลูกสาวเล่าอย่างออกรสว่ามีเพื่อนที่ออกตัวว่าเป็นฝาแฝดของเจ้าตัวมาช่วยจนเพื่อนอันธพาลเจ็บตัวเช่นกัน เธอเลยถูกเชิญมาเพื่อฟังสรุปเหตุการณ์และพูดคุยกับผู้ปกครองของคู่กรณี
เธอไม่นึกเลยว่าผู้ปกครองของน้องบี ฮีโร่ของยายวิกกี้จะเป็นเขา
ผู้ชายที่กำลังนั่งจ้องเธอเขม็งเหมือนจะกินเลือดกินเนื้ออยู่ตอนนี้
“ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยหรือ”
วฤทธิ์ ถาม เพราะตั้งแต่ที่เดินเข้ามา มีเพียงวิกกี้และน้องบีวิ่งมากอดกันและจูงมือกันไปเล่นอีกทาง ส่วนเขากับเธอนั่งคนละฝั่งของโซฟา
“ไม่เห็นต้องพูดอะไร ฉันรอพบผู้ปกครองของเด็กที่ผลักลูกให้เจ็บเพื่อมาขอโทษและทำความเข้าใจเท่านั้น”
หญิงสาวพยายามควบคุมไม่ให้มือที่สั่นเพราะความหวาดหวั่นบางประการ
“ก็จะไม่พูดกับผู้ปกครองเด็กที่ช่วยลูกคุณเอาไว้บ้างเหรอ”
“…”
“น้องบีบอกว่าช่วยวิกกี้เพราะถูกชะตากับวิกกี้มาก บอกว่าหน้าเหมือนกันจนเรียกวิกกี้ว่าบีสอง น่าแปลก ลูกคนละพ่อคนละแม่กัน แต่ทำไมหน้าคล้ายกันนัก”
วฤทธิ์พูดเสียงเย็น แบบที่ใครได้ยินคงหนาว เขาพูดเหมือนหยันแต่อันที่จริงเขาโกรธจะแทบกระอัก ตอนเขาเดินเข้ามาเจอเธอและวิกกี้แวบแรก ดวงตาของเธอก็บอกหมดทุกอย่างว่าเธอมีสิ่งที่ปกปิดเอาไว้และสิ่งนั้นถูกเปิดเผยต่อคนที่ไม่ควรล่วงรู้ที่สุดแล้ว
แต่เธอก็ยังแสร้งทำเป็นไม่มีอะไร เขาเลยแกล้งพูดเรื่องที่วิกกี้กับน้องบีหน้าเหมือนกัน
ตุบ!
เสียงของหล่นจากมือของ ปทิตา เธอมืออ่อนและสั่นจนแทบเอามืออีกข้างจับไว้ คอแห้งผากไปหมด ไม่กล้าสบตาเขาในยามที่ก้มลงเก็บกระเป๋าคล้องไหล่ที่หล่นบนพื้น เธอมืออ่อนจนมันหลุดมือ วฤทธิ์เลยก้าวมานั่งชันเข่าที่พื้นแล้วหยิบมันขึ้นให้เธอ สายตาคมกร้าวของเขาเงยหน้ามองเธอ
“อย่าได้คิดพาลูกหนีไปจากผมอีก ไม่อย่างนั้นเราเห็นดีกันแน่”
เสียงดุของเขาทำให้เธออยากจะวิ่งหนีออกไปจากความเยือกเย็นและน่ากลัวนี้ให้พ้นๆ เหลือเกิน แต่เขากลับเป็นคนไปเอง ร่างสูงที่ยังดูดีไม่เคยเปลี่ยนติดจะภูมิฐานขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำก้าวเดินไปยังมุมของเล่นที่เด็กหญิงสองคนกำลังเล่นกันอยู่
เด็กหญิงทั้งสองหน้าคล้ายกันราวฝาแฝดเพราะแต่งตัวเหมือนกัน เรียกได้ว่าคนที่รู้จักเผินๆ มีจำผิดแน่ ดีว่าแยกได้ที่คนหนึ่งผมสั้นคนหนึ่งผมยาว การที่เขาลุกจากเธอทำให้เธอโล่งใจได้ไม่นาน เพราะเขาเดินไปหาลูก เธอประหวั่นมากกว่าเก่าหลายเท่า
เธอไม่คิดว่าจะเจอเขา ไม่คิดว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้ คิดว่าจะกลับไทยเงียบๆ และรีบกลับตอนบิดาออกจากโรงพยาบาล
แต่เพียงแค่มาวันที่สองเท่านั้น ลูกที่เธอเก็บซ่อนไว้สุดความสามารถกลับต้องมาเจอพ่อของแกโดยบังเอิญ ปัญหาใหญ่คงต้องตามมาอย่างไม่ต้องคาดเดา