คลิกรูปปกหนังสือ เพื่อดาวน์โหลดอีบุ๊ค แต่ถ้ามีจำนวนเล่มเยอะ ให้คลิก link เลขที่เล่มด้านล่าง แทนรูปหน้าปกนะคะ
ภวิศ บังเอิญเจอ เกวลี ในวันที่เธอช้ำรัก ความปรารถนาของร่างกายนำพาให้ทั้งคู่เลยเถิด จนถึงขั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง
คนหนึ่งไม่อยากรู้จักและสานต่อ หากแต่อีกคนกลับโหยหาและเฝ้ารอที่จะพบเจอ
จนได้มารู้ว่าหญิงสาวเป็นพี่ของเพื่อนสนิท ภวิศจึงไม่อาจปล่อยเธอให้จากไปได้อีกครั้ง ชายหนุ่มต้องเข้าหาและอ้อนเธอให้ปรารถนาเพียงแค่เขา…
“คืนนี้เรา…อยู่ด้วยกันได้ไหม”
“ที่พูดเนี่ย รู้หรือเปล่าว่าหมายความว่าอะไร”
ชายหนุ่มถามจริงจัง เพราะที่ได้ฟังมันคล้ายเธอเสนอตัวอยากอยู่กับเขาทั้งคืน และแน่นอนว่ามันคงไม่ใช่แค่การนั่งคุยกันหรือนอนคุยกันเฉย ๆ แน่
ถึงแม้เธอจะทำให้รู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจไปบ้าง แต่รูปร่างและใบหน้าก็จัดว่าเป็นสาวสวยดูดีถูกสเปกไม่น้อย
เขาไม่ได้มีพันธะอะไร และไม่ได้เป็นคนดีขนาดที่มีคนมาเสนอตัวให้แล้วจะไม่สนองกลับ ต่างคนต่างโต ๆ กันแล้ว
ถ้าแค่สนุกกายสบายใจ เสร็จกิจก็แยกย้าย…มันก็เป็นเรื่องปกติ
“แล้วนายว่าไงล่ะ”
หญิงสาวถามด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ไม่อยากพูดซ้ำให้ต้องอับอาย ไหน ๆ อดีตคนรักก็ไปมีอะไรกับใครก็ได้…
แล้วทำไมเธอจะทำแบบนั้นบ้างไม่ได้ ร่างกายเธอ…สิทธิ์ของเธอ และตอนนี้คนโสดไร้พันธะใด ๆ
อย่างน้อยมันคงช่วยทำให้ความเจ็บใจทุเลาลงไปได้บ้าง
ภวิศยังไม่ได้ตอบในทันที เขาเปิดช่องเก็บของตรงคอนโซลรถ หยิบกล่องอะไรบางอย่างมาเปิดดู
พอเห็นว่ายังมีอุปกรณ์ป้องกันสำหรับกิจกรรมรักหลงเหลืออยู่อีกหนึ่งชิ้น เขาจึงวางมันไว้ตรงต้นขา
แล้วจัดการปรับเบาะที่นั่งฝั่งคนขับให้เอนลงไปในระดับที่ต่ำสุด ก่อนตบลงบนหน้าตักเบา ๆ
“ขึ้นมาสิ พี่ต้องทำนะ…พอสร่างเมาแล้วผมจะได้ไม่โดนกล่าวหาว่าปลุกปล้ำขืนใจใคร”
ชายหนุ่มบอกพร้อมยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย สำหรับเขาไม่ติดขัดอะไรอยู่แล้ว เขาไม่ได้เสียหาย…มีแต่ได้กับได้
“เอาไง มันจะตีสองอยู่แล้ว”
ว่าแล้วก็ตบหน้าตักกระตุ้นอีกครั้ง คราวนี้ชายหนุ่มอำนวยความสะดวกให้ด้วยการปลดเข็มขัดรัดเอวออก รวมถึงปลดกระดุมกางเกงยีนและรูดซิปรอเธอมาจัดการต่อ
เกวลีมองภาพตรงหน้าด้วยใจที่เต้นระทึก ทั้งตื่นเต้น ประหม่า และเริ่มไม่แน่ใจกับเรื่องที่ตัวเองกำลังจะทำ
แถมยังต้องทำกับคนแปลกหน้า คนที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อด้วยซ้ำ พอเริ่มได้สติมองใบหน้าเขาดี ๆ ถึงได้พอรู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงเรียกเธอว่า ‘พี่’
แม้ตอนนี้จะมีเพียงแสงไฟสลัวจากหลอดไฟในรถ แต่ก็เห็นชัดว่าใบหน้าเขายังดูอ่อนเยาว์คล้ายเพิ่งพ้นช่วงวัยรุ่นมาได้ไม่นาน อาจจะอ่อนว่าเธอสักสามสี่ปีด้วยซ้ำไป
“เอาไงครับ ไม่เอาก็แยกย้ายกลับบ้านนอน”
สิ้นเสียงของภวิศ คนที่ไม่ยอมเปลี่ยนใจ ก็เริ่มเคลื่อนย้ายตัวเอง โดยการปีนมานั่งคร่อมที่หน้าตักของอีกฝ่าย
ด้วยท่าทางที่ทุลักทุเล เกวลีใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เห็นสายตากรุ้มกริ่มที่เขาจ้องมองเธอไม่วางตา ก็ยิ่งทำให้ใจแทบจะระเบิดออกมาจากอก
ภาพกิจกรรมเร่าร้อนที่เคยจินตนาการถึงแวบขึ้นมาเป็นระยะจนทำให้มือไม้สั่นไปหมด แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น…เธอมีเรื่องหนึ่งอยากจะสารภาพ
“…ฉัน…ฉันทำไม่เป็น”