Home » สนมป่วนแห่งตำหนักฉางหมิน (นิยายจีน) – มาดามบะหมี่ซอง

สนมป่วนแห่งตำหนักฉางหมิน (นิยายจีน) – มาดามบะหมี่ซอง

คลิกรูปปกหนังสือ เพื่อดาวน์โหลดอีบุ๊ค แต่ถ้ามีจำนวนเล่มเยอะ ให้คลิก link เลขที่เล่มด้านล่าง แทนรูปหน้าปกนะคะ

อ่านนิยายจีน สนมป่วนแห่งตำหนักฉางหมิน pdf epub มาดามบะหมี่ซอง น่านกนก

ลานดาว สาวสวย(เพิ่ง)โสดในคืนฉลองวันเกิด ดวงของเธอเคลื่อนเข้าสู่ปีชง

มีเหตุให้ย้อนชาติภพไปโผล่ในยุคจีนโบราณ ยิ่งกว่านั้นยังไปอยู่ในร่างของ พระสนมหลิ่งชิง

หรือชงหรงแห่งตำหนักฉางหมินผู้มีชื่อเสียงดีงามเพรียบพร้อมไร้จุดด่างพร้อย

 

แต่ชงหรง(คนใหม่)กลับมาพร้อมสร้างชื่อเสียง(?)ให้ตำหนักฉางหมินกระฉ่อนวังยิ่งกว่าเดิม

นางทำเรื่องวุ่นชวนหัวหมุนน่าคลึงขมับ เพราะตั้งแต่หลังจากฟื้นขึ้นมาก็กลับกลายเป็นสนมเพี้ยนป่วนตำหนัก

ทั้งยังต้องพยายามดิ้นรนหาทางหนีการถวายตัวฮ่องเต้อย่างเอาเป็นเอาตาย

แต่ยิ่งหาทางหนีมากเท่าไหร่ เส้นด้ายแห่งโชคชะตาที่ผูกกันไว้กลับยิ่งรัดรึง

ให้เข้าไปอยู่ในสายตาของหมีหิมะผู้แสนเย็นชามากขึ้นทุกที…ทุกที…

 

องค์ฮ่องเต้ทรงยืนทอดพระเนตรท่าเต้นพิลึกพิลั่นของสนมผู้นี้อยู่

ราวกับกำลังโดนท่อนไม้ซัดเข้าที่พระเศียรของพระองค์เต็มแรง

มีแต่ความอื้ออึงเกิดขึ้นในความคิดของพระองค์

 

‘นะ…นั่น…นั่นนางทำท่าอะไรของนาง’

“นี่เจ้า!!!”

บุรุษหนุ่มรูปงามเข้ามาประจันหน้ากับดรุณีแรกแย้มในระยะเผาขน เนื่องด้วยทรงสงสัยที่มาของต้นเสียง

“กรี๊ด…อื้อ…”

ก่อนที่ลานดาวจะทันได้กรีดร้องมือหนาก็จัดการปิดปากนุ่มของเธอซะก่อน

ทว่าครู่ต่อมาหญิงสาวก็งับมือที่ปิดปากเธอแล้วกระโดดโหยงเว้นระยะห่างจากเขาออกมาเล็กน้อย

 

“คุณมาอยู่นี่ได้อย่างไง…เอ่อ…ข้าหมายถึงท่านเข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”

เธอเอานิ้วเกลี่ยผมที่เปียกทัดหูของตัวเองคิดว่าสภาพของตัวเองตอนนี้

คงไม่ต่างจากผีพรายน้ำมากนักเพราะผิวมือเริ่มเหี่ยวซีดเนื่องจากแช่น้ำเป็นเวลานาน

“เจ้าต่างหากเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร แล้วเหตุใดจึงทำกิริยาเช่นนี้ต่อหน้าเรา”

พระพักตร์ของพระองค์เรียบนิ่งมองนางด้วยสายตาอ่านยาก

 

เจ้ากรมโยธาหอบรายงานความคืบหน้าของการสร้างเขื่อนมารอเข้าเฝ้า

อยู่นอกตำหนักฉางตี้เนื่องจากองค์ฮ่องเต้รับสั่งว่าต้องการทอดพระเนตร

ความคืบหน้าและต้องการฟังรายระเอียดเรื่องงบที่ใช้ไปครั้งล่าสุดภายในวันนี้

โดยเจ้ากรมโยธาต้องรีบเร่งเดินทางจากหูจงเข้าวังเป็นการด่วน

องค์ฮ่องเต้ทรงหยิบและวางฎีกาอยู่หลายครั้งเปิดอ่านได้เพียงครู่เดียวแล้วก็พับเก็บ

แล้วก็เปิดใหม่ครู่ต่อมาก็พับเก็บเช่นเดิม

 

“ทูลฝ่าบาทท่านเจ้ากรมโยธารอเข้าเฝ้าอยู่หน้าตำหนักมาสองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ทรงพระราชทานอนุญาตให้ท่านเจ้ากรมเข้าเฝ้าเลยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

กู๋กงลองเกริ่นอีกครั้งหลังจากที่กราบทูลการมาถึงของเจ้ากรมโยธาไป

ตั้งแต่ช่วงเช้าแต่เห็นองค์ฮ่องเต้ยังคงนิ่งเฉยไม่ทรงเรียกท่านเจ้ากรมให้เข้ามาเสียที

 

“เราว่า เราไปดูนางสักหน่อยดีกว่า เหตุในช่วงนี้นางจึงเอาแต่นอนบ่อยนัก”

บุรุษหนุ่มตรัสไปคนละเรื่องกับที่กู๋กงกราบทูล ขันทีอาวุโสจึงหุบปากฉับ

ถือว่าประโยคที่ตนเอ่ยก่อนหน้านี้…เป็นลมอ่อนกำลังที่โชยผ่านหยกแกะสลัก

พระโพธิสัตว์กวนอิมไปก็แล้วกัน เพราะองค์ฮ่องเต้ไม่ได้ใส่พระทัยฟังเลยด้วยซ้ำ

เนื่องจากทรงคิดสงสัยเรื่องที่พระสนมหลิ่งชิงเอาแต่นอน นอน แล้วก็นอน

 

ร่างสูงสง่าขององค์ฮ่องเต้ยืดตัวขึ้นเพื่อเสด็จไปที่ตำหนักฉางหมิน

กู๋กงจึงรีบตารีตาเหลือกจัดขบวนเสด็จและให้ขันทีที่รับใช้อีกคนไปแจ้ง

ท่านเจ้ากรมโยธาให้อยู่รอจนกว่าองค์ฮ่องเต้จะเสด็จกลับมาและรอไปจนกว่ามีรับสั่งให้เข้าเฝ้า

ท่านเจ้ากรมจึงได้แต่รอไปเรื่อย ๆ ราวกับต้นไม้ที่จะงอกรากปักทิ่มลงไปในดิน