Home » เมื่อแฟนผมเป็นนางงาม – อัสสุชล

เมื่อแฟนผมเป็นนางงาม – อัสสุชล

คลิกรูปปกหนังสือ เพื่อดาวน์โหลดอีบุ๊ค แต่ถ้ามีจำนวนเล่มเยอะ ให้คลิก link เลขที่เล่มด้านล่าง แทนรูปหน้าปกนะคะ

ดาวน์โหลด นิยาย เมื่อแฟนผมเป็นนางงาม pdf epub อัสสุชล slimnashopping

รับประกันความฟินจิกหมอน และความหื่นเต็มพิกัด ของผู้ชายคลั่งรักคนนี้

 

เรื่องราวความสัมพันธ์ของคนสองคนมันเริ่มต้นจากคืนนั้น

จากที่เคยเป็นผู้ซื้อบริการมาตลอด เกือบจะได้เป็นคนขายบริการ

เมื่อความต้องการตรงกัน ความสัมพันธ์แบบครูสอนเรื่องเซ็กซ์

กับเด็กนักเรียนผู้อยากเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ จึงเริ่มต้นขึ้น

 

**จากที่คิดว่าจะไม่รู้สึก จากที่คิดว่าจะไม่ผูกพัน แต่ทำไมยิ่งนานวันใจเขายิ่งถลำลึกลงไปเรื่อยๆ**

 

เขาลุกขึ้นยืนข้างเตียงมองหาเสื้อผ้าที่ถอดโยนทิ้งไว้

“พี่เดี๋ยว ก็ถ้าไม่มีคนเปิดซิงสักทีแล้วมันจะเคยไหมล่ะ ช่วยสอนหนูทีหนูอยากเคยดูบ้าง อยากรู้ว่าที่เขาว่ากันว่ามันฟินกันน่ะ มันจะขนาดไหน หนูอยากเก่งเรื่องอย่างว่า”

ปิติศักดิ์มองหน้าเธออย่างต้องการค้นคว้า นี่คืออยากให้เขาช่วยเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ให้ใช่ไหม

 

“พี่ไม่ชอบการผูกมัดนะน้อง ไม่คิดจะมีแฟน ไม่เคยคิดจะรักใคร ไม่เคยคิดจะสร้างครอบครัว ไม่ชอบการหึงหวงหรือแสดงความเป็นเจ้าของ”

มันต้องคุยกันให้ชัดเจนตั้งแต่แรกจะได้ไม่มีปัญหาเคลียร์ๆ กันไปเลย

เขาชอบอะไรที่ชัดเจน จริงๆ ถ้าไม่ได้เอาก็เสียดายเหมือนกันแหละ ก็นี่มันสเปกเขาชัดๆ

 

“ไม่ผูกมัดค่ะ ไม่ได้อยากให้พี่รับผิดชอบอะไร หนูแค่อยากเรียนรู้หนูไม่ได้อยากเป็นแฟนกับพี่ หนูแค่ต้องการลองพี่จะสอนหนูได้ไหม หรือพี่ไม่เจ๋ง”

เธอเอียงคอมองหน้าเขาแบบท้าทาย แหมไอ้เด็กนี่รู้จักเต้ทองหล่อน้อยไป เดี๋ยวจะเอาให้ร้องครางทั้งคืนเลย

“พูดแบบนี้ถือว่าท้าทายนะครับ แล้วอย่ามาร้องว่าไม่ไหวแล้ว ทีหลังล่ะ”

“อยากจะลองเหมือนกันแหละ ว่าจะเจ๋งสักแค่ไหน”

นั่นท้าทายกูอีกเด็กนี่ เดี๋ยวเอาให้ร้องขอชีวิตเลย

“จัดให้น้อง ไปนอนที่เตียงไป เดี๋ยวพี่จะสอนให้เต็มที่เลยเอาแบบพอมีผัวคนต่อไป ผัวน้องต้องติดใจเลยแหละ”

 

“กางขาไว้นะ เอากว้างๆ กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วก็ไม่ต้องเกร็ง”

ทำไปพูดไปมันดูแปลกๆ ปกติกับเด็กเลี้ยงของเขาทุกคนไม่เคยต้องพูดแค่ทำอย่างเดียว

ทุกคนรู้หน้าที่ของตนเองดีว่าต้องทำยังไง

แต่นี่กำลังรับบทเป็นครูก็คงต้องให้ทฤษฎีกันหน่อยเธอทำตามที่เขาบอกกางขาออกกว้าง

และให้ตายเถอะพอบอกให้กางกว้างๆ ก็กว้างจริงๆ คือแบบร้อยแปดสิบองศาได้เลยมั้ง

นี่มันนักยิมนาสติกมาเองหรือไงวะกางขาได้ขนาดนี้ เหมือนเธอจะรู้ว่าเขาสงสัย

 

“หนูเรียนบัลเลต์ตั้งแต่อายุสามขวบยิมนาสติกลีลาตอนหกขวบ กว้างพอไหมคะ”

เอ้าเด็กนี่มันประชดกูหรือเปล่าวะปิติศักดิ์คิด

 

**จากที่คิดว่าจะไม่รู้สึก จากที่คิดว่าจะไม่ผูกพัน แต่ทำไมยิ่งนานวันใจเขายิ่งถลำลึกลงไปเรื่อยๆ**

 

“หนู พี่ได้คำตอบแล้ว”

เมยาวีสบตาเขานิ่งนาน เหมือนจะหาความหมายในดวงตาคู่นั้น

เธอเดินเข้ามายืนข้างหน้าเขา รอฟังสิ่งที่เขาจะพูด

“พี่หงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นหนูไปกับคนอื่น โมโหทุกครั้งที่มีผู้ชายคนไหนมาใกล้หนู เจ็บที่ใจทุกครั้งที่หนูเฉยชากับพี่ นั่นเป็นเพราะว่า…..”

ปิติศักดิ์สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อลดความรู้สึกมากมายที่กำลังอัดแน่นอยู่ในใจ

เมยาวีมองหน้าเขาอย่างรอคอยคำตอบด้วยหัวใจที่เต้นรัว

 

“พี่รักหนู หนูจะให้อภัยผู้ชายซื่อบื้อที่โคตรงี่เง่าคนนี้ได้ไหม หนูจะให้โอกาสพี่ได้รักหนูได้ไหม หนูจะ..”

เมยาวีโอบประคองสองข้างแก้มของเขาไว้แล้วเขย่งตัวปิดปากของเขาด้วยปากของเธอ

ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว ไม่ต้องบอกอะไรเธออีกแล้ว เธอเข้าใจแล้ว

เข้าใจตั้งแต่เห็นเขาเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วมองเธอด้วยแววตาแบบนั้น

เธอรักเขา และรอฟังคำนี้มาเนิ่นนาน นานเหลือเกิน

 

ปิติศักดิ์เปิดปากรับจูบที่แสนอ่อนหวานด้วยหัวใจที่เต้นรัวเร็ว

ในใจเบิกบานเปี่ยมสุขเหมือนมีผีเสื้อนับพันตัวบินวนอยู่ในนั้น โคตรคิดถึงเลย

รสจูบแสนหวานที่เขาฝันถึงในทุกค่ำคืน กลิ่นหอมที่คุ้นเคย สัมผัสที่โคตรคิดถึง

เขาจูบตอบเธอด้วยหัวใจทั้งหมดที่มี เมยาวีถอนจูบออก

มองคนที่เธอรัก แล้วเอ่ยคำพูดที่อยากจะพูดที่สุดออกมา

 

“หนูรักพี่ค่ะ รักมาก รักพี่เต้คนเดียว”

ปิติศักดิ์มองสบตาเธอ หัวใจเบิกบานสุขจนล้นไปหมด น้ำใสๆ ไหลออกมาจากตา

เธอเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้เขา แล้วหัวเราะออกมา ผู้ชายปากเสียแสนซื่อบื้อของเธอช่างน่ารัก

น่ารักเหลือเกิน ปิติศักดิ์หัวเราะให้กับความอ่อนไหวของตนเอง

แค่ได้ยินเธอบอกรักกูถึงกับร้องไห้เลยเหรอวะ เต้เอ้ยแม่งอ่อนว่ะ แววกลัวเมียมาเห็นๆ

แต่ยังไงก็ช่างเถอะ อะไรก็ยอมทั้งนั้นขอแค่มีเธออยู่แบบนี้ เขายอมได้ทุกอย่าง

 

**ก็คนมันขี้หึงนิดนึงก็คิดไปไกล**

 

“เป็นไงล่ะ ดูสบายดีนี่ คงสนุกมากใช่ไหมกับการปั่นหัวผู้ชาย เห็นไปกับคนนั้นที คนนี้ที”

ถึงแม้จะดูเหมือนไม่ได้สนใจแต่เขาก็พอจะรู้ว่า อดีตเด็กในคอนโทรลของเขาคนนี้

มีหนุ่มๆแวะเวียนมาขายขนมจีบเรื่อยๆ ทั้งรายเก่ารายใหม่ เธอผู้ซึ่งนับวันยิ่งสวยขึ้นดูดีขึ้น

แต่เขาสิในแต่ละคืนกว่าจะข่มตาหลับลงได้ก็ปาไปครึ่งค่อนคืน

ทุกวันนี้หน้าอย่างกับมหาโจรเพราะไม่ค่อยได้นอนหนวดเคราเต็มหน้าไปหมด

เพราะไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย

สำหรับคนที่รักหมดใจที่ต้องอยู่กับความเจ็บปวด กับผู้หญิงแพศยาคนหนึ่งที่ชีวิตสบายดีมาก

 

“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”

“เรียกผัวเก่าสะห่างเหินเลยนะ”

“อย่าพูดแบบนี้นะ คุณไม่เคยเป็น”

“หึ เอากันมาแล้วทุกท่า ทั้งบนบกในน้ำบนรถ ยังจะไม่เรียกว่าผัวอีกเหรอ ลืมง่ายจริงนะ แต่ก็นะคงมีผัวมานับไม่ถ้วน ถ้าให้นับคงรายชื่อยาวเป็นหางว่าว ”

“คนเลว”

“หึ แค่นี้ทำเป็นโกรธมากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว ทำไมพอมีผัวใหม่ เรียกสิ่งที่ผัวกลัวทำว่าเลวเลยเหรอ แต่ก่อนก็เห็นว่าออกจะชอบร้องครางตลอด”

 

“คุณมันเลว ไม่เป็นสุภาพบุรุษ”

เมยาวีเปล่งเสียงต่อว่าเขาอย่างยากลำบาก เจ็บจุกไปทั้งใจ

“หึ ทำมาเป็นด่า ไวไฟสะขนาดนี้ ของขาดเหรอ ถ้าของขาดบอกนะ จะสงเคราะห์ให้”

เมยาวีน้ำตาไหลเป็นทาง เจ็บเหลือเกิน สิ่งที่เธอเคยทำมันกำลังจะทิ่มแทงเธอ

การที่เธอยอมให้เขาง่ายๆเพราะความรัก

มันกลายเป็นว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงไร้ค่าคนหนึ่งในสายตาของเขาเท่านั้น

เธอเป็นได้แค่ผู้หญิงใจง่ายที่นึกอยากจะทำอะไรก็ได้

ความสาวของเธอมันไม่มีความหมายอะไรสำหรับเขาเลย

 

“ไม่จำเป็น มีผู้ชายอีกมากที่พร้อมจะสังเคราะห์ให้ฉัน ฉันคงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกลับไปหาของเก่าที่ไร้ค่าอย่างคุณ เพราะเมื่อได้เปรียบเทียบฉันถึงได้รู้ว่า ไอ้ที่ดีกว่านี้มันกว่านี้มีอีกตั้งเยอะ เชอะ แมมมอธงั้นเหรอ จะบอกอะไรให้นะ ใหญ่กว่านี้เด็ดกว่านี้มีอีกเยอะมาก คุณมันกระจอกค่ะคุณปิติศักดิ์”

พูดจบเธอก็ผลักเขาแรงๆแล้ววิ่งหนีไป น้ำตาไหลเป็นทาง

“โธ่เว้ย”

 

พระเอกเรื่องนี้ ปากหมาเก่ง กวนตีนเก่ง หื่นเก่ง หวงเก่ง ประชดเก่ง ร้องไห้เก่ง

เก่งทุกเรื่อง..แต่โง่เรื่องความรู้สึก

แม้จะปากหมาไปหน่อย แต่รวมๆก็มีความน่ารักไม่น้อย

โหลดตัวอย่างไปสัมผัสผู้ชายปากหมาที่บ้ารักแต่เธอ ไปอ่านได้เลย